-
- กกก
- ระบบสมาชิก
ตับแข็ง (Cirrhosis)
โรคตับแข็งเกิดจากการที่เนื้อตับไดรับบาดเจ็บจากการอักเสบเป็นเวลานาน ทำให้เกิดพังผืดไปเบียดเนื้อตับที่ดี และทำให้เลือดไปเลี้ยงตับน้อยลง ถ้ามีการทำลาย เซลล์ตับอย่างเรื้อรังจนมีพังผืดเกิดขึ้นมาก เนื้อตับที่เคยนุ่มจะค่อยๆ แข็งขึ้น จนกลายเป็น “ตับแข็ง” ในที่สุด ส่งผลให้สมรรถภาพการทำงานของตับลดลง ซึ่งนำมาสู่สุขภาพร่างกายแย่ลง
สาเหตุที่เซลล์ตับถูกทำลาย
มักจะเกิดจากการดื่มสุราจัดติดต่อกันเป็น เวลานาน
การใช้ยาบางชนิดติดต่อกันนานๆ
ผู้ที่อ้วน มีไขมันพอกตับเป็นเวลานาน
อาการของโรคตับเเข็ง
อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ คล้ายอาหารไม่ย่อย
รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน เป็นบางครั้งน้ำหนักลด
เจ็บบริเวณชายโครงขวาเล็กน้อย
เนื้อตัวและนัยน์ตาเหลือง
คันตามตัว
ความรู้สึกทางเพศลดลง
ในผู้หญิงอาจมีอาการประจำเดือนขาดหรือมาไม่สม่ำเสมอ มีหนวดขึ้น หรือมีเสียงแหบแห้งคล้ายผู้ชาย
ในผู้ชายอาจรู้สึกนมโตและเจ็บ อัณฑะฝ่อตัว
บางคนอาจสังเกตเห็นฝ่ามือแดงผิดปกติ หรือมีจุดแดงที่หน้าอก หน้าท้อง
หากมีอาการรุนแรงอาจมีท้องมาน เท้าบวม เห็นหลอดเลือดพองที่หน้าท้อง อาเจียนเป็นเลือดสดๆ
การรักษาโรคตับเเข็ง
โรคตับแข็งนี้ไม่มีทางรักษาให้หายขาด เพราะเซลล์ตับที่ถูกทำลายไปแล้ว ไม่สามารถฟื้นกลับมาเป็นปกติได้ แต่สามารถชะลอหรือหยุดการทำลายตับได้ ถ้าเป็นตับแข็งระยะเริ่มแรก และปฏิบัติตัวได้เหมาะสม ซึ่งจะสามารถมีชีวิตได้นานเกิน 5-10 ปีขึ้นไป แต่ถ้าปล่อยให้มีภาวะแทรกซ้อนชัดเจน เช่น ดีซ่าน ท้องมาน อาเจียนเป็นเลือด ก็จะมีชีวิตสั้น อาจอยู่ได้ 2-5 ปี
การป้องกันโรคตับแข็ง
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ ปรุงสุก และสะอาด
รับประทานอาหารใหปริมาณที่พอเหมาะ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อควบคุมน้ำหนักและรอบเอวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
ใช้ช้อนกลางทุกครั้งที่ต้องรับประทานอาหารร่วมกับคนอื่น เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ
รับประทานยาหรืออาหารเสริมทุกครั้งจะต้องปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ
พบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพประจำปีอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ
หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี 039-319888