CO2 LASER : บทความโดย พญ.โปรดปราน ณ สงขลา
CO2 LASER คืออะไร
เป็นเลเซอร์ผิวหนังที่มีความยาวคลื่น 10,600 nm มีคุณสมบัติพิเศษคือลำแสงเลเซอร์จะถูกดูดซับด้วยโมเลกุลของน้ำที่อยู่ในเซลล์ และเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนอย่างรวดเร็ว ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นจนเกิดกระบวนการระเหยกลายเป็นไอ (Vaporization) พร้อมกันกับการเกิดการแข็งตัวของเลือด (Coagulation) ในหลอดเลือดขนาดเล็กใต้ผิวหนัง ด้วยคุณสมบัติพิเศษเหล่านี้ CO2 Laser จึงสามารถใช้ในการรักษาปัญหาผิวหนังเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- รักษาสิวอุดตัน (Comedones)
- ขี้แมลงวัน (Lentigenes)
- ไฝ (Nevus)
- กระเนื้อ (Seborrheic Keratosis)
- ติ่งเนื้อ (Skin Tags)
- ต่อมไขมันโต (Sebaceous Gland Hyperplasia, SGH)
- ต่อมเหงื่อโต (Syringoma)
- หูด (Wart)
- Neurofibroma
- เนื้องอกไขมัน ( Lipoma )
CO2 LASER ปลอดภัยแค่ไหน
CO2 Laser ได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยาแห่งประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา ว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาปัญหาผิวหนังข้างต้นได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งในปัจจุบันเทคโนโลยี CO2 Laser ได้รับการพัฒนาอีกขั้น ให้มีพลังงานสูง ลดระยะเวลาการยิงแสงเลเซอร์ลงให้สั้นถึงระดับ microsecond เรียกว่า “ Ultra Pulse CO2 Laser ” ทำให้ได้ประสิทธิภาพของการรักษาที่ดีขึ้น โดยไม่เกิดผลของเคียงจากการรักษาเมื่อเทียบกับ CO2 Laser รุ่นเก่า
เจ็บมากน้อยแค่ไหน ?
ก่อนทำการรักษา จำเป็นต้องทายาก่อน แต่ถ้าบริเวณที่ต้องการรักษามีขนาดใหญ่ จำเป็นต้องฉีดยาชา ทำให้ขณะทำการรักษา ผู้รับการรักษา จะไม่รู้สึกเจ็บปวด
CO2 LASER ต้องทำกี่ครั้ง ?
ทั่วไปขึ้นอยู่กับโรคที่ทำการรักษา สำหรับไฝ ต่อมไขมันโต ต่อมเหงื่อโต อาจต้องทำการรักษามากกว่า 1 ครั้ง เนื่องจากมีรากลึก ถ้าหากตัดเอารากออกในครั้งเดียว อาจเสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็นได้ ส่วนใหญ่แล้วจะทยอยตัด เพื่อให้แผลสวยไม่เกิดแผลเป็น แต่ถ้าเป็นกระเนื้อ หูด สามารถตัดหมดภายในครั้งแรกที่ทำการรักษา
CO2 LASER ต้องพักฟื้นหลังทำการรักษาหรือไม่ ?
หลังทำการรักษา ควรหลีกเลี่ยงการโดนน้ำบริเวณแผลประมาณ 24 ชม. จากนั้นต้องทาขี้ผึ้งบ่อยๆ ประมาณ 7-10 วัน สะเก็ดจะหลุดออกเห็นเป็นผิวสีชมพูต่อไปอีกไม่กี่วัน ก็จะหายเป็นผิวหนังปกติ
ขณะนี้ทางศูนย์ผิวพรรณและความงามมีให้บริการ ultra pulse CO2 laser แล้วค่ะ
28.11.2012. 13:10